สุดยอดเครื่องรางของขลัง
1. ตะกรุดโสฬสมงคล
จัดให้เป็นจักรพรรดิ์แห่งตะกรุด โดยยันต์ที่หลวงปู่ท่านใช้ลงจารนั้น นอกจากจะมียันต์มหาโสฬสมงคลแล้ว ส่วนมากอีกด้านจะลงยันต์ไตรสรณคมน์ หรือลงยันต์ตรีนิสิงเหเอาไว้ด้วย เพื่อเป็นการป้องกันภัยจากภูตผี ปีศาจ หรือกันการถูกกระทำจากเวทย์อาคมคุณไสย ดังนั้นตะกรุดของท่านจึงมีทั้งมหาอุตม์ แคล้วคลาด คงกระพัน รวมทั้งยังมีเสน่ห์เมตตามหานิยม อันเกิดขึ้นจากพุทธคุณของผงคลุกรัก ที่ใช้โรยหรือพอกเชือกพันตะกรุดอยู่ ดังนั้นจึงเป็นศิริมงคลอย่างยิ่ง แก่ผู้มีตะกรุดของท่านไว้บูชา
2. ปลัดขิกหลวงพ่อเหลือ
อานุภาพของปลัดขิกหลวงพ่อเหลือ คือ ดีด้านคงกระพันและเมตตาโชคลาภเป็นยิ่งนัก แต่เป็นโชคลาภที่ได้มาจากการไม่ต้องร้องขอแต่ประการใด เป็นโชคลาภแบบอยู่เฉยๆ นิ่งๆ เดี๋ยวมาเองเดี๋ยวดีเองคนรุ่นเก่าบอกว่า หากใส่ปลัดขิกหลวงพ่อเหลือเพื่อจีบสาวให้เอามาไว้ที่เอวทางซ้าย หากจะเข้าหาเจ้านายให้เอามาไว้ที่เอวข้างขวา หากเกิดเหตุคับขันให้หันเอาไว้ข้างหน้า หากจะถอยให้เอาไว้ด้านหลัง เวลาจะใช้ในการใดเมื่อหันไปถูกตำแหน่งที่ต้องการ แล้วให้กลั้นหายใจว่าคาถา กำกับคือบทหัวใจโจร กัณหะ เนหะ แล้วทุกอย่างจะเป็นไปสมปรารถนาทุกประการ
3. เขี้ยวเสือหลวงพ่อปาน
เรื่องเล่ากันว่า การปลุกเสกเขี้ยวเสือของหลวงพ่อปานนั้น ท่านจะต้องมีการเรียกธาตุ 4 คือ “นะ มะ พะ ทะ” เรียก รูป เรียกนาม ปลุกเสกจนกระทั่ง เสือนั้นเคลื่อนไหวได้ราวกับมีชีวิตจริงๆทีเดียว กำหนดอุคหนิมิต ให้เครื่องรางรูปเสือนั้นมีชีวิต โดยปลุกด้วยคาถาเฉพาะ หนึ่งในบทพระคาถาที่เคยได้รับทราบมา คือ คาถาพยัคคังฯ เล่ากันว่า เมื่อท่านปลุกเสกเสร็จขณะนั่งเรือไปท่านจะนำเสือนั้นเทลงคลอง จากนั้นท่านจะนำชิ้นหมูมาล่อข้างเรือ และบริกรรมคาถา สักพักเสือจะโดดขึ้นมาติดชิ้นเนื้อหมูโดยทันที เป็นอันว่าเรียบร้อยครับ แจกลูกศิษย์ลูกหาได้
หลักการดูเสือหลวงพ่อปาน นี้ท่องกันมาเป้นคำกลอนว่า “เสือหน้าแมว หูหนู ตาลูกเต๋า ยันต์กอหญ้า”
4. หนุมานหลวงพ่อสุ่น
“ขุนกระบี่วานร ฤทธิเกริกไกร หนึ่งในสยาม” เป็นสมญานามที่คนในวงการพระเครื่องตั้งให้กับ หนุมาน หลวงปู่สุ่น นับเป็นสุดยอดของขลังหนึ่งในชุดเบญจภาคี เครื่องรางของขลังของวงการ นักสะสมใฝ่หาไว้มาครอบครองบูชาไม่แพ้ เขี้ยวเสือแกะ หลวงพ่อปานโดยเฉพาะนักสะสมรุ่นใหม่ไฟแรง แพงไม่ว่า ขอให้แท้เป็นทุ่มเข้าสู้ทันที หลวงพ่อสุ่น เรียนวิชาปลุกเสกหนุมาน จากพระนาคทัศน์ คาถาหนุมาน คาถากำกับหนุมานให้ว่า “นะมัง เพลิง โมมังปากกระบอก ยะมิให้ออก อุดธังโธอุด ธังอัด อะสังวิสุโรปุสะพูพะ มะอะอุ โอมยะพุทธา ทะโยสตรี สตรี นิสังโห”
5. วัวปั้นหุ่นหลวงพ่อน้อย
หลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง จังหวัดนครปฐม ท่านเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในพระเวทย์สายนี้เป็นอย่างมากท่านสร้างและปลุกเสกวัวธนูและควายธนูเอาไว้เฝ้าบ้านป้องกันเสนียดจัญไรจากคุณไสยลมเพลมพัดหลวงพ่อน้อย ท่านเอาทองแดงมาขึ้นเป็นรูป จากนั้นพอกด้วยครั่งผสมผงอาถรรพ์ 108 ลงรักปิดทองก็มี ท่านเสกด้วยคาถาที่เข้มขลังจากสายลาว เสกจนวัวธนู-ควายธนูหันหัวไปซ้ายไปขวาได้ พระเกจิรุ่นเก่าท่านขลังศักดิ์สิทธิ์จิตสูงจึงทำได้คนโบราณเรียกวัวของท่านว่า วัวปั้นหุน ดังคำภาษิตที่เขายกเอาไว้ให้เป็นเบญจภาคีเครื่องรางของขลัง
6. เบี้ยแก้หลวงปู่รอด
เบี้ยแก้ ของหลวงปู่รอด วัดนายโรง เป็นอิทธิวัตถุที่ใจให้เราสดุ้งกลัวต่อเพศภัยที่เรามองไม่เห็นตัว ผู้ใดมีติดตัวแล้วย่อมป้องกันภยันอันตรายได้ทั้งปวง เป็นเมตตามหานิยม แคล้วคลาดทุกประการ คุ้มกันเสนียดจัญไรคุณไสย แคล้วคลาด มหาอุตม์ คงกระพันทุกประการ ยาสั่งและการกระทำย่ำยีทั้งหลายทั้งปวงได้ชงัด